" แบรนด์กาแฟต่าง ๆ ก็เริ่มขยายการผลิต เพื่อให้สินค้าสามารถพบได้ในที่ต่าง ๆ มากขึ้น "
ปัจจุบันเราสามารถทำการตลาดได้ด้วยบรรจุภัณฑ์ (Packaging) และเพิ่มมูลค่าไปพร้อมกันได้ ทำให้ในโลกของบรรจุภัณฑ์เกิดการแข่งขันที่สูงพอสมควร เพราะต่างก็งัดไม้เด็ดโชว์เทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำ ๆ มาอวดโฉมบนหน้าสินค้ากันแบบไม่มีใครยอมใคร จึงทำให้เกิดเป็นตลาดที่มีความแตกต่างสร้างสรรค์ และแปลกใหม่อยู่เสมอ แน่นอนว่าการดีไซน์หรือการเลือกใช้วัสดุ (Material) สามารถทำให้แบรนด์โดดเด่นและนำเสนอคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนของแบรนด์ ยังสามารถอธิบายถึงจุดยืนของแบรนด์ได้อีกด้วย
ในโลกของกาแฟก็เช่นกัน ผู้ประกอบการแต่ละแบรนด์ต่างก็โชว์ความคิดสร้างสรรค์ผ่านบรรจุภัณฑ์หรือซองกาแฟออกมาเช่นกัน เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าและสร้างตัวตนให้โดดเด่นหรือจดจำได้ง่ายที่สุด อาจด้วยการเพิ่มขึ้นของอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) และความแพร่หลายของโซเชียลมีเดีย ทำให้แบรนด์กาแฟต่าง ๆ ก็เริ่มขยายการผลิต เพื่อให้สินค้าสามารถพบได้ในที่ต่าง ๆ มากขึ้น เราไปชมเทรนด์บรรจุภัณฑ์กาแฟในปีนี้กันว่า เทรนด์โลกเขามีกระแสในเรื่องนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง และมีนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาอยู่บนซองกาแฟมากน้อยเพียงใด
" Personalized Packaging จึงถูกทำขึ้นมาเป็นแคมเปญระยะสั้น หรือเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น อย่างวันสำคัญและช่วงเทศกาล "
Personalized Packaging
บรรจุภัณฑ์ที่เป็นส่วนตัว หรือเรียกว่าสามารถดีไซน์ถุงกาแฟในแบบของตัวเองได้เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่เพิ่มยอดขายได้อย่างดีเลยทีเดียว สำหรับบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบที่สามารถให้ผู้บริโภคพิมพ์ชื่อหรือครีเอทลวดลายของบรรจุภัณฑ์ได้ด้วยตนเอง โดยในปีนี้ยังคงเป็นเทรนด์ที่น่าจับตามอง เนื่องจากเป็นยุคของ Social media ที่ผู้บริโภคต้องการแบ่งปันเรื่องราวในโลกออนไลน์มากขึ้น Personalized Packaging จึงถูกทำขึ้นมาเป็นแคมเปญระยะสั้น หรือเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น อย่างวันสำคัญและช่วงเทศกาล เป็นต้น ซึ่งสามารถใช้เป็นตัวกระตุ้นยอดขายได้ใน โอกาสต่าง ๆ
" การนำ NFC Label มาติดลงบนบรรจุภัณฑ์หรือตัวสินค้าโดยตรง ซึ่งสามารถป้อนข้อมูลในส่วนของแหล่งปลูก วิธีการแปรรูป วันเดือนปีที่ผลิต อายุการเก็บรักษา หรืออาจป้อนข้อมูลเทคนิค หรือ how to สำหรับการชง "
Smart Packaging
เทรนด์การออกแบบเชิงฟังก์ชันการใช้งาน โดยเน้นการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการพิมพ์มาพัฒนาขึ้นเป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติการใช้งานที่เพิ่มขึ้น เช่น การนำ NFC (Near Field Communication)เทคโนโลยีการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ 2 ชิ้น เพื่อส่งข้อมูลขนาดเล็กถึงกันโดยการใช้ NFC ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 2 ชิ้นเท่านั้นแต่ยังสามารถสื่อสารจากสิ่งของที่ไม่ใช่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปสู่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ ดังนั้น การนำ NFC มาไว้บนบรรจุภัณฑ์กาแฟ จึงสามารถทำได้เช่นกัน ด้วยการนำ NFC Label มาติดลงบนบรรจุภัณฑ์หรือตัวสินค้าโดยตรง ซึ่งสามารถป้อนข้อมูลในส่วนของแหล่งปลูก วิธีการแปรรูป วันเดือนปีที่ผลิตอายุการเก็บรักษา หรืออาจป้อนข้อมูลเทคนิค หรือ how to สำหรับการชง เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถสแกนอ่านรายละเอียดได้ง่าย ๆ ทำให้สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตัวสินค้าอีกด้วย
" การศึกษาจาก Accenture ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านบริการและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี เผยว่า 72% ของผู้บริโภค มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้ากับบริษัทที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน "
Sustainable Packaging
บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน หรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แน่นอนว่าเทรนด์ของความยั่งยืนกำลังเข้มข้นขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะในยุคที่สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงอย่างหุนหันพลันแล่น และภาวะโลกร้อนที่ค่อนข้างรุนแรงเพราะฉะนั้นวัสดุของบรรจุภัณฑ์จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์กาแฟที่กลายเป็นขยะเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งจะถูกกำจัดด้วยการฝังกลบและใช้เวลาหลายร้อยปีในการย่อยสลาย ด้วยอัตราการเติบโตของผู้ประกอบการมีจำนวนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโรงคั่วหรือร้านกาแฟ ทำให้ปริมาณบรรจุภัณฑ์กาแฟแบบใช้ครั้งเดียว (Single Use) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การศึกษาจาก Accenture ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านบริการและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี เผยว่า 72% ของผู้บริโภค มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้ากับบริษัทที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน นอกจากนี้ Boston Consulting Group บริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการระดับโลกของอเมริกายังบอกอีกว่า ปัจจุบันผู้บริโภคกว่าหนึ่งในสามยินดีจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน
Sustainable Packaging ในปัจจุบันจึงเริ่มมีบรรจุภัณฑ์กาแฟที่ย่อยสลายได้ออกมาให้เห็นกันบ้างแล้ว ซึ่งเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนอีกทางหนึ่งของเทรนด์ความยั่งยืนในปัจจุบัน ซึ่งนอกจากจะแก้ปัญหาขยะบรรจุภัณฑ์กาแฟแบบเดิมที่เป็นวัสดุประเภทลามิเนต (Laminate) มีส่วนประกอบค่อนข้างหลายชั้น ซึ่งส่วนใหญ่ทำมาจากโพลิโพรพิลิน (Polypropylene) อลูมิเนียม (Aluminum) และ โพลิเอทิลีน (Linear Low-Density Polyethylene) นอกเหนือจากการแก้ปัญหาขยะพลาสติกแล้ว บรรจุภัณฑ์กาแฟที่ย่อยสลายได้ยังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และมองหาทางเลือกที่ยั่งยืนในการตัดสินใจซื้ออีกด้วย
บรรจุภัณฑ์กาแฟที่ย่อยสลายได้ หรือ Compostable Packaging คือ บรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อย่อยสลายผ่านกระบวนการทำปุ๋ยหมัก ซึ่งจำเป็นต้องอยู่ภายใต้สภาวะที่ควบคุมทั้งอุณหภูมิ ความชื้น และระดับออกซิเจน โดยสามารถปรับให้เหมาะสมเพื่อรองรับการสลายตัวของสารอินทรีย์และเร่งกระบวนการทำปุ๋ยหมัก จึงจำเป็นต้องอาศัยโรงหมักปุ๋ยเชิงพาณิชย์ ซึ่งต่างจากกระบวนการย่อยสลายทางชีวภาพทั่วไป (Biodegradable) ที่ไม่มีการควบคุมสภาวะ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า การย่อยสลายสมบูรณ์ และไม่มีสารปนเปื้อนลงสู่ธรรมชาติแน่นอนว่าในบ้านเราเองก็อาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากและซับซ้อนพอสมควร เนื่องจากโรงหมักปุ๋ยเชิงพาณิชย์ยังคงมีอยู่อย่างจำกัดและไม่สามารถเข้าถึงได้ทุกพื้นที่ แต่แม้ว่าการทำในครัวเรือนอาจไม่เกิดการย่อยสลายได้แบบทางอุตสาหกรรม แต่ก็ยังเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนกว่าเมื่อเทียบกับบรรจุภัณฑ์กาแฟแบบเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย
นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์กาแฟยังประกอบไปด้วยองค์ประกอบอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วัสดุพิมพ์ (Substrate) หมึกพิมพ์ (Ink) และสารเคลือบ (Varnish) เพราะฉะนั้นในกระบวนการย่อยสลายจำเป็นต้องใช้หมึกพิมพ์ที่ย่อยสลายได้ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น หมึกพิมพ์ถั่วเหลือง (Soy ink) ซึ่งเป็นการใช้น้ำมันถั่วเหลืองหรือน้ำมันพืชเป็นส่วนประกอบแทนน้ำมันปิโตรเลียม และผงหมึก ยังได้จากหินสีธรรมชาติอีกด้วย ซึ่งน้ำมันถั่วเหลืองที่อยู่ในหมึกพิมพ์ ช่วยให้สารสีทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หมึกมีสีสันสดใส ความเข้มสูง และหาได้ง่ายทั่วโลก รวมถึงหมึกพิมพ์ที่ใช้น้ำมันถั่วเหลืองเป็นส่วนประกอบจะมีส่วนผสมของสารระเหยต่ำ จึงช่วยให้มลพิษทางอากาศที่สูดดมเข้าไปลดน้อยลงอีกด้วย ซึ่งการผลิตหมึกพิมพ์จากวัตถุดิบธรรมชาติย่อมย่อยสลายได้ 100% และปลอดภัยต่อผู้บริโภค อีกทั้งยังสามารถพิมพ์ลงบนบรรจุภัณฑ์ พร้อมนำกลับมารีไซเคิลได้ถึง 80% เลยทีเดียว ดังนั้น Sustainable Packaging จึงเป็นอีกหนึ่งบรรจุภัณฑ์ในการซัพพอร์ตเรื่องของสิ่งแวดล้อม และตอบโจทย์สำหรับผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นหลัก ซึ่งบรรจุภัณฑ์ยั่งยืนยังคงเป็นเทรนด์ที่ถูกยกขึ้นมาพูดถึงอยู่เสมอจนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามปัจจุบันเทคโนโลยีในเรื่องของบรรจุภัณฑ์ก้าวหน้าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บรรจุภัณฑ์กาแฟทั้ง 3 ประเภทก็เช่นกัน ล้วนแล้วแต่มีในเรื่องของเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน ดังนั้นตัวบรรจุภัณฑ์กาแฟจึงเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญของวงการกาแฟที่ทำให้เราได้เห็นการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีใหม่ได้เช่นกัน อีกทั้งยังคงมีการต่อยอดอย่างไม่รู้จบ ไม่แพ้เทคโนโลยีในโลกกาแฟด้านอื่น ๆ เลยทีเดียว
" ตัวบรรจุภัณฑ์กาแฟจึงเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญของวงการกาแฟที่ทำให้เราได้เห็นการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีใหม่ได้เช่นกัน "
Coffee Traveler
เป็นนิตยสารรายสองเดือน ที่จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเป็นการส่งผ่านความรู้ทางด้านกาแฟ
และเสริมมุมความคิดในด้านธุรกิจกาแฟ
- - -
สมัครสมาชิกนิตยสารได้ที่ : IN BOX Facebook Coffee Traveler
Instagram : coffeetraveler_magazine
Youtube : Coffee Traveler
Blockdit : I am Coffee Traveler / coffeetravelermag
Comments