top of page
Writer's picturecoffeetravelermag

Premium Instant Coffee




“Premium Instant Coffee” ผลิตภัณฑ์ใหม่จาก Jason Coffee Roaster โดยทางเจสันเลือกใช้เมล็ดกาแฟเกรดพิเศษ (Specialty)


ตลาดของกาแฟสำเร็จรูป (Instant Coffee) ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและคึกคักไม่แพ้ตลาดกาแฟพิเศษเลยทีเดียว ด้วยความสะดวกและเป็นที่คุ้นเคยของผู้บริโภคกันอยู่ก่อนแล้ว จึงไม่แปลกใจว่าตลาดของกาแฟสำเร็จรูปเองก็สามารถทำกำไรหรือเพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมกาแฟได้เช่นเดียวกัน ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจุบันมีกาแฟสำเร็จรูปในท้องตลาดค่อนข้างมากหน้าหลายตาและเต็มไปด้วยความเฉพาะตัวของแต่ละแบรนด์ ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อได้ตามความพึงพอใจในเรื่องของรสชาติหรือระดับความเข้มข้น



" การทำฟรีซดรายจึงช่วยให้อาหารไม่เน่าเสีย เนื่องจากน้ำในอาหารที่ถูกระเหิดออกเป็นจำนวนมากทำให้เชื้อจุลินทรีย์ไม่สามารถเติบโตอยู่ภายในอาหารได้ "


โดยส่วนมากแล้วการทำกาแฟสำเร็จรูปมักถูกผลิตแบบ Spray Dried ซึ่งเป็นการผลิตเพื่อให้ได้มาในรูปแบบของการเป็นผงกาแฟ โดยใช้ความร้อนสูงถึง 200 - 250 องศาเซลเซียส ส่งผลให้กลิ่นและรสชาติ รวมถึงน้ำมันในกาแฟสูญหายไปพอสมควร ในปัจจุบันผู้ผลิตจึงหันมาสนใจการทำกาแฟสำเร็จรูปผ่านวิธีที่เรียกว่า “Freeze Drying” กันมากขึ้น เนื่องจากสามารถรักษากลิ่นและรสชาติของกาแฟได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว Freeze Drying หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Lyophilization เกิดขึ้นในปี 1950 โดยใช้ในอุตสาหกรรมยาและใช้สำหรับถนอมอาหารที่มีความอ่อนไหวต่อความร้อน ซึ่งเป็นการใช้ระบบเย็นผ่านอุณหภูมิต่ำกว่า -40 องศาเซลเซียส โดยอยู่ในสภาพแวดล้อมความดันสูงในระยะเวลามากกว่า 10 ชั่วโมง จึงทำให้น้ำที่อยู่ในสถานะของแข็งเปลี่ยนเป็นสถานะก๊าซได้ในสภาวะที่ใกล้เคียงสุญญากาศ โดยไม่ต้องเปลี่ยนมาเป็นของเหลว หรือเรียกว่า “การระเหิด” ฉะนั้นการทำฟรีซดรายจึงช่วยให้อาหารไม่เน่าเสีย เนื่องจากน้ำในอาหารที่ถูกระเหิดออกเป็นจำนวนมากทำให้เชื้อจุลินทรีย์ไม่สามารถเติบโตอยู่ภายในอาหารได้ นอกจากนี้ การฟรีซดรายหรือกระบวนการระเหิดไม่มีการใช้ความร้อนจึงทำให้คุณค่าทางโภชนาการ, กลิ่น, และเนื้อสัมผัส มีคุณภาพใกล้เคียงกับของสดใหม่อีกด้วย


ดังนั้นการสกัดช็อตกาแฟเข้มข้นแล้วนำไปผ่านกระบวนการของ Freeze Drying จึงทำให้ได้กาแฟออกมาในลักษณะของผลึกน้ำแข็งหรือเกล็ดแข็งที่สามารถละลายได้ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น อีกทั้งยังคงทุกอย่างไว้อย่างครบถ้วนกว่า 90% เลยทีเดียว เช่นเดียวกันกับ “Premium Instant Coffee” ผลิตภัณฑ์ใหม่จาก Jason Coffee Roaster โดยทางเจสันเลือกใช้เมล็ดกาแฟเกรดพิเศษ (Specialty) ประกอบกับใช้การสกัดแบบช็อตต่อช็อตจากเครื่อง Espresso machine จึงทำให้รสชาติของกาแฟเมื่อละลายน้ำมีความเข้มข้นของกลิ่นรสเทียบเท่ากับกาแฟสดที่สกัดจากเครื่องใหม่ ๆ เลยทีเดียว



ตัว Premium Instant Coffee สามารถชงได้ทั้งเมนูอเมริกาโนและลาเต้ โดยการชงแบบอเมริกาโนร้อน ใช้น้ำ 200 มิลลิลิตรต่อ 1 หลอด ในส่วนของการชงแบบเย็นและลาเต้ใช้น้ำ 110 - 130 มิลลิลิตร หรือนม 100 - 120 มิลลิลิตร บอกได้เลยว่าตอบโจทย์สำหรับคอกาแฟที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเดินทางที่ต้องดื่มกาแฟขณะเดินทางท่องเที่ยวหรือตั้งแคมป์อีกด้วย อีกทั้ง Premium Instant Coffee เขายังมีเมล็ดกาแฟให้เลือกมากถึง 5 ตัว ได้แก่

1. Brazil Santos

2. Jason House Blend

3. Peachy Blend

4. Ethiopia Yirgacheffe G2

5. Honduras Whiskey Barrel Aged


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโปรดักส์ของทาง Jason Coffee Roaster ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากจะสะดวกต่อการชงและการพกพาไปด้วยทุกที่แล้ว Premium Instant Coffee ยังพ่วงตำแหน่งรสชาติระดับพรีเมียมที่ยังคงกลิ่นรสไว้ได้อย่างเข้มข้น รับรองว่าถูกใจคอกาแฟสาย Specialty อย่างแน่นอน

 

สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่

โทรศัพท์ : 08 18181 765

facebook : Jason Coffee Roaster

175 views0 comments

Comments


bottom of page