top of page
Writer's picturecoffeetravelermag

คู่มือสู่ชัยชนะของ 2 CHAMPION



" แม้ว่าสไตล์นี้จะมีความเสี่ยง เพราะอาจจะไม่ถูกใจทุกคน แต่คุณแบงค์ก็กล้าที่จะท้าทาย และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อย่างไม่กลัวความล้มเหลว "


เชื่อว่าหากพูดถึงวงการกาแฟไทยในช่วงหลายปีมานี้ ทุกคนคงจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า วงการกาแฟกำลังก้าวกระโดดอย่างน่าทึ่ง ไม่ใช่แค่การเติบโตของจำนวนร้านกาแฟที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ยังหมายถึงการพัฒนาในทุกมิติ ตั้งแต่กระบวนการปลูก การคั่ว การชง ไปจนถึงการบริโภค โดยหนึ่งในข้อพิสูจน์นั้น ก็คือ “เวทีการแข่งขัน” ที่ได้กลายมาเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์สำคัญในการผลักดันวงการกาแฟ ซึ่งเวทีการแข่งขันเหล่านี้ ไม่เพียงแต่เป็นการดึงดูดผู้ที่มีความสามารถในอุตสาหกรรมกาแฟให้มารวมตัวกัน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์เท่านั้น แต่ยังเป็นแรงผลักดันสำคัญในการพัฒนาทักษะ และยกระดับมาตรฐานของวงการกาแฟไทยอีกด้วย


อย่างที่เราทราบกันดีว่าในแต่ละเวทีย่อมมีสไตล์หรือรูปแบบการแข่งขันที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันย่อมเป็นกฎ กติกา ที่มีความเข้มข้นและมีมาตรฐาน เพื่อเฟ้นหาแชมป์ในรายการนั้น ๆ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเวทีเล็กหรือเวทีระดับประเทศ สิ่งหนึ่งที่ผู้เข้าแข่งขันมีเหมือนกัน คงหนีไม่พ้นความมุ่งมั่นที่ต้องการจะเอาชนะ เช่นเดียวกับที่เรามักจะเห็นในตัว Champion ของแต่ละรายการ แต่นอกจากความมุ่งมั่นนั้นแล้ว กว่าที่คน ๆ หนึ่งจะกลายมาเป็น Champion ได้ ย่อมต้องผ่านเรื่องราวเบื้องหลังมากมาย ในครั้งนี้ Coffee Traveler มีโอกาสได้พูดคุยกับ 2 Champion 2 สไตล์ ถึงจุดเริ่มต้นของการก้าวเข้ามาในแวดวงกาแฟ ประสบการณ์ และการฝึกซ้อม รวมถึงมุมมองในด้านต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง และคิดว่าบทความนี้อาจจะกลายเป็นคู่มือที่มีประโยชน์สำหรับนักแข่งกาแฟมือใหม่ ที่อยากจะเดินเข้าสู่เส้นทางของ Champion ในอนาคต


ชัยชนะที่ขับเคลื่อนด้วยทีม นักเสี่ยงดวง ผู้ทำกาแฟแบบสุดทาง

แบงค์ (รัฐศาสตร์ นนทา)

COMPETITION

- Champion Thailand Coffee Brewer League 2024 Nakhonsawan

- Champion Thailand Coffee Brewer League 2024 Pattaya

- Champion TCBL 2024 Team Battle Pattaya

- Champion TCBL 2024 Team Battle Sukhothai

- Champion Es - Yen Slow Bar Championship Nakhonsawan


เริ่มต้นด้วยแชมป์ผู้มีบุคลิกโดดเด่น ที่หากได้เห็นเพียงครั้งเดียวก็สามารถจดจำได้ คุณแบงค์ (รัฐศาสตร์ นนทา) เจ้าของร้าน Barbaric Coffee ร้านกาแฟที่มีสีเหลืองเป็นสีประจำร้าน ในซอยแยกสวนสยาม โดยคุณแบงค์เข้าสู่วงการกาแฟ จากความชื่นชอบในการดื่มกาแฟตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ก่อนจะตัดสินใจเข้ามาทำกาแฟแบบจริงจังเมื่อประมาณ 4 – 5 ปีที่แล้ว คุณแบงค์เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้รับการยอมรับ ในฐานะแชมป์ที่มีความสามารถ และมีแนวทางการชงกาแฟที่โดดเด่น มีสไตล์เป็นของตัวเอง



“กาแฟของผมจะเป็นกาแฟแบบสุดทาง คือถ้าจะหวาน ก็หวานให้สุด ถ้าจะเปรี้ยว ก็เปรี้ยวให้สุด จะเรียกว่าเป็นความนิสัยไม่ดีของผมก็ได้ คือผมไม่ค่อยเซฟตัวเอง ชอบแข่งขันด้วย คือถ้าสุดก็สุดไปเลยในรสชาติ พยายามทำให้สุดทางที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมเป็นคนทำกาแฟแบบที่ไม่หวานมาก แต่จะจัดจ้านและครบรส ในบางครั้งมันก็เลยทำให้บางแก้วของผมจะโดดมาก ซึ่งนั่นทำให้กรรมการบางคนอาจจะไม่ชอบ แบบพนันไปเลย ถ้าได้ก็ได้ ถ้าไม่ได้ก็คือล้มกระดานเลย”


สไตล์การชงกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือหัวใจสำคัญที่ทำให้คุณแบงค์โดดเด่น การเลือกที่จะทำกาแฟแบบสุดทาง ย่อมหมายถึงการสร้างสรรค์รสชาติที่จัดจ้าน เข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นความหวาน ความเปรี้ยว หรือความขม และแม้ว่าสไตล์นี้จะมีความเสี่ยง เพราะอาจจะไม่ถูกใจทุกคน แต่คุณแบงค์ก็กล้าที่จะท้าทาย และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อย่างไม่กลัวความล้มเหลว จนได้รับตำแหน่งแชมป์มาหลายเวที แต่กว่าจะทำให้กาแฟเป็นที่ยอมรับได้ คุณแบงค์ก็เป็นอีกคนที่ต้องผ่านการฝึกซ้อมอย่างหนักไม่แพ้คนอื่น ๆ


“เราซ้อมหนักมาก แล้วส่วนใหญ่เราจะซ้อมกันแบบเป็นทีม เพราะบางรายการจะเป็นระบบแข่งเป็นทีมด้วย ส่วนตัวผมชอบการซ้อมแบบเป็นทีม ซ้อมกับกาแฟทุกแบบ ตั้งแต่กาแฟเกรดธรรมดา ไปจนถึงกาแฟเกรดพรีเมียม เพราะในกลุ่มที่ซ้อมกัน มีเพื่อนที่เป็นโรสเตอร์หลายคน เราก็เลยตั้งโจทย์ให้เพื่อน ๆ ช่วยคั่วกาแฟมาสำหรับซ้อมในรายการนั้น ๆ เราพยายามตั้งโจทย์กันในกลุ่มอยู่เสมอ ไม่ได้ต่างคนต่างซ้อม โดยโจทย์ที่ตั้งก็จะมีความหลากหลาย เพื่อให้สามารถฝึกฝนได้หลายรูปแบบ ถ้าถามผม สิ่งสำคัญที่ทำให้เราพัฒนาได้เร็ว หนึ่งคือความสม่ำเสมอในการซ้อม ส่วนอีกเรื่องเลยคือการ calibrate คือถ้าเราซ้อมคนเดียว เราอาจจะคิดว่ามันอร่อย แต่การที่มีคนมาช่วยชิมกาแฟของเรา หรือการที่เราได้ชิมกาแฟของคนอื่น มันจะทำให้เรามองเห็นจุดบกพร่องได้ดีขึ้น ได้มุมมองใหม่ ๆ มากขึ้น จะบอกว่าชัยชนะของผมส่วนหนึ่งมาจากการซ้อมกับทีมก็ได้”



" ผมเป็นคนที่วางเป้าไว้ชัดเจน เป้าหมายของผมคือการเป็นแชมป์ ผมไม่ได้คิดว่าไปแข่งเล่น ๆ สนุก ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้กดดันตัวเอง คือตั้งเป้าไว้ที่แชมป์ แต่ก็ไม่ได้เครียดหรือกดดัน แค่พยายามทำทุกสนามให้เต็มที่ ถ้าไม่ได้ก็เริ่มใหม่ คือวางเป้าเอาไว้แบบนี้ตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากบ้าน "


ทีม “OLD Town Brew” คือทีมรวมบาริสตายอดฝีมือ และมากประสบการณ์ ที่ผ่านเวทีการแข่งขันมาแล้วมากมาย โดยสมาชิกในทีมจะรวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ และเทคนิคต่าง ๆ กับเพื่อนร่วมทีม เพื่อช่วยกันพัฒนาฝีมือ และเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง คุณแบงค์เองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของทีมนี้ รวมไปถึงอีกหนึ่งแชมป์เปี้ยนที่เรามีโอกาสได้พูดคุยด้วยอย่าง คุณหม่ง (ฐิติวุฒิ พุทธกะ) ที่สังกัดอยู่ในทีมนี้เช่นเดียวกัน


ชัยชนะที่เกิดจากการไม่ยอมแพ้ นักวางแผน ผู้วางเป้าหมายไว้ชัดเจน

หม่ง (ฐิติวุฒิ พุทธกะ)

COMPETITION

- Champion Thailand Coffee Brewer League 2024 Ayutthaya

- Champion Thailand Coffee Brewer League 2024 Hatyai

- Champion TCBL 2024 Team Battle Pattaya

- Champion TCBL 2024 Team Battle Sukhothai

- Champion Es - Yen Slow Bar BY. PIROM Hatyai


คุณหม่ง อีกหนึ่งแชมป์เปี้ยนจาก ทีม OLD Town Brew เจ้าของร้าน KAYIM COFFEE ROASTER ร้านกาแฟและ Home Roaster เล็ก ๆ ย่านเมืองเก่าอยุธยา ที่ได้เดินทางเข้าสู่โลกกาแฟ จากการได้แรงบันดาลใจจากคุณยาย อันเป็นที่มาของชื่อ KAYIM (กระหยิ่ม) แน่นอนว่าไม่ได้มีเพียงชื่อเท่านั้น ที่แค่ได้ยินครั้งแรกก็ติดหู แต่สิ่งที่ทำให้ KAYIM COFFEE ROASTER ครองใจผู้คนมากมาย มาจากฝีมือการชงกาแฟของคุณหม่ง ที่มีดีกรีแชมป์ถึง 5 เวทีด้วยกัน


“ผมแข่งมาประมาณ 3 ปี 70 กว่าสนามได้ ตั้งแต่ปี 2022 - 2024 ผมเริ่มจากการค่อย ๆ พัฒนาตัวเองไปในแต่ละสนาม แต่ละปี ค่อย ๆ เรียนรู้ตัวเอง ค่อย ๆ สร้างระบบการเตรียมตัวขึ้นมา จนมาถึงปัจจุบัน เราก็ใช้วิธีการซ้อม โดยการซ้อมกับทีมเป็นหลัก”


เบื้องหลังความสำเร็จทุกอย่าง ย่อมเต็มไปด้วยความทุ่มเท และแน่วแน่ในเป้าหมาย คุณหม่งเป็นคนที่มีอุปนิสัยเถรตรง และเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นที่จะคว้าแชมป์ให้ได้ ซึ่งเป้าหมายนี้เป็นแรงผลักดันสำคัญที่นำพาเขาไปสู่ความสำเร็จ



“ผมเป็นคนที่วางเป้าไว้ชัดเจน เป้าหมายของผมคือการเป็นแชมป์ ผมไม่ได้คิดว่าไปแข่งเล่น ๆ สนุก ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้กดดันตัวเอง คือตั้งเป้าไว้ที่แชมป์ แต่ก็ไม่ได้เครียดหรือกดดัน แค่พยายามทำทุกสนามให้เต็มที่ ถ้าไม่ได้ก็เริ่มใหม่ คือวางเป้าเอาไว้แบบนี้ตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากบ้าน อีกอย่างคือการไม่ยอมแพ้ ผมไม่ถอยแม้แต่สนามเดียว สนามไหนที่ผมแพ้ ผมก็เอากลับมาเป็นการบ้าน ถ้าผมแพ้ใคร แพ้เทคนิคแบบไหน ผมก็จะเอากลับไปเรียนรู้ ไปศึกษาเทคนิคของเขา ที่ผ่านมาผมแข่งจนสามารถเข้ารอบชิงถึง 16 ครั้ง กว่าจะได้แชมป์มาก็เข้าปีที่ 3 แล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมได้เรียนรู้จากคนที่เป็นแชมป์มาโดยตลอด ทำให้เราเก่งขึ้น ผมว่าจุดแข็งของผมคือการที่ผมเรียนรู้ได้ดี และไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ การทำซ้ำ เรียนรู้สิ่งใหม่ และไม่หยุดอยู่กับที่

จะทำให้เราพัฒนาตัวเองได้ดีขึ้น เพราะวงการกาแฟไม่เคยอยู่นิ่ง ทั้งเทคโนโลยีรสนิยมในการดื่ม การ process เพราะฉะนั้นเราต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ตลอด ต้องปรับตัวให้อยู่กับปัจจุบัน ไม่จมอยู่กับอดีต”


การได้พูดคุยกับแชมป์ทั้ง 2 ท่านถึงจุดเริ่มต้นไปจนถึงทัศนคติหรือมุมมองที่มีต่อการแข่งขันนั้น ทำให้ได้เข้าใจถึงสิ่งสำคัญที่อยู่ระหว่างจุดเริ่มต้นและเส้นชัยได้อย่างชัดเจน รวมถึงการตั้งเป้าหมายไปพร้อมกับการฝึกฝนก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน นอกจากนี้หนึ่งสิ่งที่สัมผัสได้จากบทสนทนาของทั้งสองท่านคงหนีไม่พ้นการหลงรักกาแฟอย่างสุดหัวใจ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ชอบดื่ม แต่เป็นชอบในแบบที่ต้องการเข้าใจและเข้าถึงในทุกบทบาทของเรื่องกาแฟให้ได้มากที่สุด รวมไปถึงการยังคงค้นหาสิ่งใหม่ และเรียนรู้อยู่เสมออย่างไม่หยุดนิ่ง


" วงการกาแฟไม่เคยอยู่นิ่ง ทั้งเทคโนโลยี รสนิยมในการดื่ม การ process เพราะฉะนั้นเราต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ตลอด ต้องปรับตัวให้อยู่กับปัจจุบัน ไม่จมอยู่กับอดีต "


 

Coffee Traveler 

เป็นนิตยสารรายสองเดือน ที่จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเป็นการส่งผ่านความรู้ทางด้านกาแฟ

และเสริมมุมความคิดในด้านธุรกิจกาแฟ

- - -

สมัครสมาชิกนิตยสารได้ที่ : IN BOX

Facebook Coffee Traveler 

Youtube : Coffee Traveler 

7 views0 comments

Comments


bottom of page