ช่วงปลายเดือนมกราคม 2566 ที่จะถึงนี้ จังหวัดเชียงใหม่กำลังจะมีงานอีเว้นท์ระดับโลก เกี่ยวกับชา-กาแฟเกิดขึ้น นั่นคือ World Tea & Coffee Expo 2023 ณ ศูนย์การค้า One Nimman ย่านธุรกิจที่สำคัญใจกลางเมืองเชียงใหม่ จัดโดย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB ว่ากันว่า เป็นงานที่ทั้งคนในวงการอุตสาหกรรมชา-กาแฟ รวมถึงคนที่รักการดื่มชากาแฟพลาดไม่ได้
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงจังหวัดต่าง ๆ ในเขตภาคเหนือนั้น เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ดึงดูดผู้คนทั้งในและต่างชาติเข้ามาเยี่ยมเยียนเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน สภาพภูมิประเทศและสภาพภูมิอากาศเช่นนี้ ยังเป็นแหล่งผลิตชาและกาแฟเศรษฐกิจที่สำคัญ สร้างรายได้ไม่น้อยให้กับคนในพื้นที่
เมื่อมองตัวเลขรายได้หลักพันล้านในแต่ละปีรวมทั้งปัจจัยอื่น ๆ แล้ว TCEB จึงเล็งเห็นศักยภาพ ของพื้นที่ภาคเหนือว่า สามารถผลักดันให้กลายเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมชาและกาแฟในภูมิภาคได้ จึงได้ใช้กลไกงานประชุมและแสดงสินค้าเป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมยกระดับอุตสาหกรรมชา-กาแฟ และขับเคลื่อนให้พื้นที่ภาคเหนือเป็น “ถิ่นของชาและกาแฟระดับโลก”
ในปี 2563 โครงการพัฒนาต่อยอดอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และสินค้าชุมชน "World Tea & Coffee Expo” ได้ถือกำเนิดขึ้น และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงปี 2566 นี้จะเป็นการจัดงานครั้งที่ 3 ซึ่งมีความพิเศษกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
A Cup of Success : แก้วที่เต็มไปด้วยความสำเร็จ
งาน World Tea & Coffee Expo 2023 ในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “A Cup of Success” เป็นการ เน้นย้ำถึง “ความสำเร็จของธุรกิจชาและกาแฟในไทย ที่พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด และความสำเร็จ ที่รออยู่ในอนาคต” ซึ่งงานในครั้งนี้จะมีผู้ที่ประสบความสำเร็จในด้านต่าง ๆ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ของกิจกรรมต่าง ๆ ภายในงานด้วย โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการค้าขายชา-กาแฟ ขยายการรับรู้ การเป็นแหล่งผลิตชากาแฟชั้นเลิศให้เป็นที่ประจักษ์ทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ ส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการตลอดห่วงโซ่ของชาและกาแฟ สร้างฐานการจัดงานไมซ์ด้านชาและกาแฟ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสร้างเครือข่ายทางวิชาการและทางธุรกิจ โดยกิจกรรมหลักประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนของงานแสดงและจำหน่ายสินค้า และส่วนของงานประชุมนานาชาติในชื่อ “The 3rd Tea and Coffee International Symposium”
B2B2C : โอกาสทางการค้าที่รออยู่
ในส่วนของการแสดงสินค้า World Tea & Coffee Expo 2023 นั้น ประกอบด้วย บูธแสดง และจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการชาและกาแฟในภาคเหนือ และภาคอื่น ๆ จำนวน 45 ราย ผู้ประกอบการจากต่างประเทศจำนวน 5 รวมทั้งสิ้นเป็น 50 ราย ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติ และผ่านเกณฑ์ตามที่ TCEB กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านความน่าเชื่อถือ คุณภาพและมาตรฐานของสินค้า การนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ในกระบวนการผลิต และมีศักยภาพสามารถต่อยอดธุรกิจต่อไปได้ในอนาคต
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่จะเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสทางการค้าที่รออยู่ไม่สิ้นสุดให้แก่ผู้ประกอบการ คือ Business Matching หรือการจับคู่ธุรกิจ หรือ B2B (Business-to-Business) โดยในครั้งนี้ มีการเชิญคู่ค้าเข้าร่วมจากทั่วประเทศ 20 ราย และจากต่างประเทศจำนวน 5 ราย ทั้งในรูปแบบ ออฟไลน์และออนไลน์ อย่างไรก็ตาม เมื่อมองย้อนไปในครั้งก่อน ๆ ได้มีการมุ่งเป้าไปที่ตัวเลขของ B2B (Business-to-Business) ซึ่งเป็นการเจรจาซื้อขายครั้งละมาก ๆ เป็นหลักมากกว่า B2C ที่เป็นการค้าปลีก แต่สำหรับในครั้งนี้ที่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงไป เศรษฐกิจการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว และเป็นโอกาสในการสร้างรายได้จากในส่วน B2C มากขึ้น จึงมีการปรับรูปแบบการจัดงานให้มีลักษณะของความเป็นเทศกาลหรืองานแฟร์มากขึ้น โดยจัดในพื้นที่เปิดกว้าง ใจกลางย่านธุรกิจท่องเที่ยวที่สำคัญของเชียงใหม่ แต่ก็ยังมีมาตรฐานและความพร้อมรองรับการประชุมได้ในบริเวณเดียวกัน ซึ่งจะเป็นการส่งผลดีต่อ ภาคการท่องเที่ยวอีกด้วย
การจัดงานครั้งนี้ คาดว่าจะมีเงินสะพัดทั้งงานประมาณ 10 ล้านบาท ประมาณการจากการ เจรจาธุรกิจที่ 8 ล้านบาท และส่วนของการซื้อขายภายในงานอยู่ที่ 2 ล้านบาท ในส่วนของผู้เข้าชมนั้น เดิมตั้งเป้าไว้ที่ 1,000 คน แต่ด้วยทำเลของสถานที่จัดงานที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง จึงมั่นใจว่าจะมีผู้เข้าชมมากกว่า ที่ตั้งเป้าไว้อย่างแน่นอน
International Symposium : การประชุมนานาชาติ
ในส่วนของงานประชุมนานาชาติ The 3rd Tea and Coffee International Symposium ครั้งนี้ ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญทั้งจากในประเทศและต่างประเทศเข้าร่วม โดยได้รับเกียรติจากกงสุลต่างประเทศร่วมเป็นวิทยากรในการประชุมด้วย
โดยหัวข้อการประชุมจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ A cup Of success : ความสำเร็จของ ธุรกิจชาและกาแฟในไทย บทบาทความสำคัญของหน่วยงานต่าง ๆ ในการมีส่วนร่วมและผลักดัน อุตสาหกรรมชาและกาแฟ , Light Cup : ทิศทางตลาด ชา และกาแฟไทยกับแนวโน้มตลาดโลก, Meduim Cup : ตลาดชาและกาแฟในไทย โอกาสและอุปสรรคในการเติบโต , Dark Cup : เจาะลึกการส่งออก และการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ และ Special Cup : Tea and Coffee Tourism ชากาแฟกับโอกาสในการ ต่อยอดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งการประชุมจะเป็นรูปแบบ Hybrid มีทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ สามารถเข้าร่วมได้ตามความสะดวก
Together We Grow : ผนึกกำลังดันชา กาแฟภาคเหนือสู่ระดับโลก
ในช่วงก่อนการเริ่มงาน ได้มีการระดมความคิดและประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาคี ทั้งหน่วยงานในพื้นที่ สถาบันการศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่, ศูนย์ส่งเสริม อุตสาหกรรมภาคที่ 1 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม, กรมส่งเสริมวิชาการเกษตร เชียงใหม่, สำนักงาน อุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, ศูนย์นวัตกรรมอาหารและบรรจุภัณฑ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, สถาบันชาและกาแฟ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, สมาคมกาแฟพิเศษไทย, สมาคมกาแฟไทย และ ASEAN Tea Organisation (ATO) ทั้งนี้ เพื่อให้ความร่วมมือเกิดผล ที่เป็นรูปธรรม ภายในงาน แถลงข่าวการจัดงาน World Tea & Coffee Expo 2023 ในวันที่ 19 มกราคม 2566 จะมีการลงนามใน ข้อตกลงความร่วมมือ MOU ระหว่างหน่วยงานภาคี เพื่อตอกย้ำเป้าหมายที่มีร่วมกัน นั่นคือ การขับเคลื่อน พืชเศรษฐกิจระดับภาค สร้างชื่อเสียงให้ภาคเหนือเป็น “ถิ่นของชาและกาแฟระดับโลก”
ทุกท่านสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมชาและกาแฟภาคเหนือได้ในงาน World Tea & Coffee Expo 2023 ระหว่างวันที่ 26-29 มกราคม 2566 ที่ ศูนย์การค้า One Nimman โดยติดตามข่าวสารกิจกรรมได้ที่เพจ www.facebook.com/worldteaandcoffeeexpo
Comments